แผนภูมิ เป็นทัศน์วัสดุที่แสดงความสัมพันธ์ของเรื่องราวต่างๆ โดยอาศัยเส้น ของตัวอักษร และภาพลายเส้น หรือภาพโครงร่าง
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจในเรื่องราวและแผนภูมิแต่ละชนิดมีรูปแบบ
และโครงสร้างที่แตกต่างกัน และมีประโยชน์ต่อการใช้สอยแตกต่างกัน
ประเภทของแผนภูมิ มีดังนี้
1. แผนภูมิคอลัมน์
แผนภูมิคอลัมน์จะแสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลตลอดช่วงเวลาหนึ่ง
หรือแสดงการเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ แผนภูมิคอลัมน์จะมีแผนภูมิย่อยชนิดต่าง ๆ
มีดังต่อไปนี้
แผนภูมิคอลัมน์แบบเป็นกลุ่ม แผนภูมิชนิดนี้จะทำหน้าที่เปรียบเทียบค่าที่อยู่ในหมวดหมู่ต่าง
ๆ และยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับลักษณะพิเศษเสมือน 3 มิติ
เช่นที่แสดงในแผนภูมิต่อไปนี้ หมวดหมู่ต่าง ๆ จะถูกจัดเรียงตามแนวนอน
และค่าจะอยู่ในแนวตั้ง เพื่อเน้นถึงความเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ
แผนภูมิคอลัมน์แบบเป็นกลุ่ม
แผนภูมิคอลัมน์ 3 มิติ แผนภูมิชนิดจะทำหน้าที่เปรียบเทียบ จุดของข้อมูลตามแกนสองแกน
ตัวอย่างเช่น ในแผนภูมิแบบ 3 มิติต่อไปนี้
คุณจะสามารถเปรียบเทียบยอดขายในสี่ไตรมาสของยุโรป กับยอดขายของอีกสองแผนก
แผนภูมิคอลัมน์ 3 มิติ
2.แผนภูมิแท่ง
แผนภูมิแท่งจะทำหน้าที่เปรียบเทียบค่าต่าง
ๆ ในหลาย ๆ ค่า แผนภูมิแท่งมีแผนภูมิย่อยในชนิดต่าง ๆ
มีดังต่อไปนี้
- แผนภูมิแท่งแบบเป็นกลุ่ม แผนภูมิชนิดนี้จะเปรียบเทียบค่าในข้อมูลทั้งหมดที่มี
ผู้ใช้สามารถใช้ร่วมกับแผนภูมิรูปลักษณะพิเศษเสมือน 3 มิติ ในแผนภูมิต่อไปนี้ ข้อมูลจะถูกจัดเรียงตามแนวตั้ง
และค่าจะอยู่ในแนวนอน เพื่อเน้นหนักที่การเปรียบเทียบค่าต่าง ๆ
แผนภูมิแท่งแบบเป็นกลุ่ม
- แผนภูมิแท่งแบบกองซ้อน แผนภูมิชนิดนี้แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลหนึ่งกับข้อมูลทั้งหมด
และสามารถนำมาใช้ร่วมกับลักษณะพิเศษเสมือน 3 มิติ
แผนภูมิแท่งแบบกองซ้อน
3. แผนภูมิเส้น
แผนภูมิเส้นจะแสดงแนวโน้มของข้อมูล
ณ ช่วงเวลาที่เท่า ๆ กัน
แผนภูมิเส้น แผนภูมิชนิดนี้จะแสดงแนวโน้มสำหรับช่วงเวลาหนึ่งหรือของข้อมูลชุดหนึ่ง
ผู้ใช้สามารถใช้แผนภูมินี้ร่วมกับมาร์กเกอร์ที่แสดงผลที่ค่าของข้อมูลแต่ละค่า
แผนภูมิเส้น
4. แผนภูมิวงกลม
แผนภูมิวงกลมจะแสดงขนาดของข้อมูลที่สร้างขึ้นเป็น ชุดของข้อมูล โดยแบ่งเป็นสัดส่วนตามผลรวมของข้อมูล
แผนภูมินี้จะแสดงเฉพาะชุดข้อมูลชุดหนึ่ง
และถือว่ามีประโยชน์มากเมื่อคุณต้องการเน้นที่องค์ประกอบเด่น ๆ ที่อยู่ในข้อมูล
แผนภูมิวงกลมมีแผนภูมิย่อยดังต่อไปนี้
แผนภูมิวงกลม
- แผนภูมิวงกลมแบบแยกตัว แผนภูมิชนิดนี้จะแสดงการกระจายของค่าแต่ละค่าต่อผลรวม
พร้อม ๆ กับเน้นที่ค่าใดค่าหนึ่ง
ผู้ใช้สามารถใช้แผนภูมินี้ร่วมกับลักษณะพิเศษเสมือน 3 มิติ
แผนภูมิวงกลมแบบแยกตัว
5. แผนภูมิแบบอธิบายภาพ (Illustrative
Charts)
ใช้แสดงส่วนต่างๆ ของภาพหรือบอกรายละเอียดของภาพ
เช่น อวัยวะต่างๆ ของคน ส่วนต่างๆ ของดอกไม้ เป็นต้น ตัวอย่าง
แผนภูมิแสดงส่วนประกอบของพืชใบเลี้ยงคู่
ตัวอย่าง
แผนภูมิแสดงส่วนประกอบของพืชใบเลี้ยงคู่
6. แผนภูมิแบบต้นไม้(Tree Charts)
ลักษณะของแผนภูมิแบบนี้
จะเหมือนกับการแตกแขนงของกิ่งก้านของต้นไม้ โดยยึดหลักการแตกของกิ่งก้านเป็นหลัก
หรือแนวเส้นของแผนภูมิ โดยจะแสดงให้เห็นว่า
สิ่งหนึ่งสามารถจำแนกออกเป็นส่วนย่อยได้อีกหลายส่วน
เปรียบเสมือนต้นไม้ที่แตกกิ่งออกไป เช่น การคมนาคมมี 3 ทางคือทางบก ทางน้ำ
ทางอากาศเป็นต้น
แผนภูมิแสดงการคมนาคมแบ่งออกเป็น 3 ทาง คือ ทางอากาศ ทางน้ำ
และทางบก
ตัวอย่าง
แผนภูมิแบบต้นไม้
7. แผนภูมิแบบสายธารา( Stream Charts)
ลักษณะของแผนภูมิแบบนี้
จะเปรียบเหมือนกับการรวมตัวของลำธารน้ำกลายเป็นลำคลอง และแม่น้ำที่กว้างใหญ่ขึ้น
โดยจะแสดงให้เห็นว่าสิ่งหนึ่งเกิดจากหลายสิ่งรวมกัน ซึ่งจะตรงกันข้ามกับแผนภูมิแบบต้นไม้
เช่น คอมพิวเตอร์เกิดจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ชิพ เมนบอร์ด จอภาพ ขนมปังเกิดจาก แป้ง ยีสต์
น้ำตาล เป็นต้น
แผนภูมิแสดงส่วนประกอบของขนมปังเกิดจากแป้ง ไข่ไก่
ยีสต์ และน้ำตาล
ตัวอย่างแผนภูมิแบบสายธารา
8. แผนภูมิแบบเปรียบเทียบ( Comparison
Charts)
เป็นแผนภูมิที่ใช้แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งของสองสิ่งทางด้านรูปร่าง
ลักษณะ ขนาด แนวความคิด ของสิ่งต่างๆ เช่น การเปรียบเทียบการแต่งกายในสมัยต่างๆ พืชใบเลี้ยงเดี่ยวกับใบเลี้ยงคู่
เป็นต้น
แผนภูมิแบบเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างอเมริกันฟุตบอลกับรักบี้
ตัวอย่างแผนภูมิแบบเปรียบเทียบ
9. แผนภูมิแบบองค์การ ( Organization
Charts)
เป็นแผนภูมิที่ใช้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์
ของสายงานในหน่วยงานหรือองค์การ นิยมใช้เส้นโยงความสัมพันธ์ ของหน่วยงานย่อย
ที่เกี่ยวข้องกันโดยตรงและใช้เส้นประ หรือเส้นจุดไข่ปลา แสดง
ความสัมพันธ์ของหน่วยงานย่อยที่ เกี่ยวข้องกันโดยอ้อม เช่น แผนภูมิแสดงสายงานการบริหารโรงเรียน
เป็นต้น
ตัวอย่างแผนภูมิแบบองค์การ
10. แผนภูมิแบบต่อเนื่อง( Flow
Charts)
ใช้แสดงเรื่องราว
กิจกรรม การทำงานเป็นขั้นตอนตามลำดับต่อเนื่อง ตลอดจนการแสดง
วงจรชีวิตที่เป็นลำดับต่อเนื่อง เช่น วงจรชีวิตของผีเสื้อ
ตัวอย่างแผนภูมิแสดงวงจรชีวิตของผีเสื้อ
11. แผนภูมิแบบวิวัฒนาการ ( Developmental
Charts)
แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ
ต่อเนื่องกันเป็นลำดับ แต่ไม่ย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีก
ตัวอย่างแผนภูมิแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของกล้องถ่ายภาพ
12. แผนภูมิแบบขยายส่วน ( Enlarging Chartsz)
เป็นแผนภูมิที่มุ่งแสดงให้เห็นลายละเอียดของส่วนเล็กๆ
ขยายให้ใหญ่ขึ้นเน้นส่วนที่ต้องการ ให้เห็นชัดเจนขึ้น โดยขยายเฉพาะบางส่วน
เท่านั้น
ตัวอย่างแผนภูมิแบบขยายส่วน
ลักษณะของแผนภูมิที่ดี
- เป็นแบบง่ายๆ
ไม่สลับซับซ้อนหรือยุ่งยาก
- แสดงแนวความคิดเพียงแนวคิดเดียว
- เนื้อหาถูกต้อง
ทันสมัย ตรงกับวัตถุประสงค์
- สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียน
สร้างความประทับใจ
- มีขนาดใหญ่พอเหมาะกับกลุ่มผู้เรียน
- ใช้สีเรียบๆ
เพียง 2-3 สี หรือใช้เพื่อเน้นความสนใจ
- ตัวอักษรที่ใช้ควรเป็นแบบที่อ่านง่าย
ประณีตบรรจงและควรเป็นแบบเดียวกัน
- นอกจากต้องการเน้น
- ชื่อเรื่องและเนื้อหาควรสอดคล้องกับภาพและใช้ตัวอักษรที่โตกว่าคำบรรยาย
- คำบรรยายควรใช้ข้อความสั้นๆ
กะทัดรัด
- สัญลักษณ์หรือรูปภาพควรเป็นแบบง่ายๆ
ไม่แสดงรายละเอียดมากนัก
- ประโยชน์ของแผนภูมิต่อการเรียนการสอนใช้นำเข้าสู่บทเรียน จะช่วยกระตุ้นหรือ เป็นสิ่งเร้าให้ผู้เรียนมุ่งความสนใจ มาสู่เนื้อหา ที่กำลังจะเริ่มต้นใช้ ประกอบการอธิบาย แผนภูมิช่วยให้รายละเอียดของเนื้อหา ได้ชัดเจนกว่าคำอธิบาย ที่เป็นนามธรรมให้มี ความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากค้นคว้าหาความรู้ เพิ่มเติม ใช้คู่กับสื่อการสอนประเภทอื่นๆ อาจเป็นในรูปแบบของสื่อประสม ใช้สรุปหรือทบทวนบทเรียน ช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดแก่ผู้เรียน
- การใช้แผนภูมิประกอบการเรียนการสอนมีข้อเสนอแนะในการนำแผนภูมิมาใช้ในการเรียนการสอนที่น่าสนใจดังนี้
- เลือกใช้แผนภูมิที่ตรงกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของการสอน
- เตรียมห้องเรียน
และเตรียมผู้เรียนโดยให้ศึกษาเนื้อหาล่วงหน้า
- เสนอแผนภูมิอย่างช้าๆ
อธิบายให้ละเอียดและชัดเจน
- ควรใช้ไม้ชี้ประกอบการอธิบาย
- ใช้สื่อการสอนอื่นประกอบการใช้แผนภูมิด้วย
- ควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการหาข้อมูลหรือจัดทำแผนภูมิ
- หลังสิ้นสุดการสอนควรทดสอบความเข้าใจ
และติดแผนภูมิไว้ในห้องเรียนสักระยะหนึ่ง
- ส่งเสริมให้นักเรียนทำกิจกรรมประกอบเพิ่มเติม
เพื่อเป็นการย้ำเน้นของ
- แผนภูมิและยังช่วยให้การสรุปบทเรียนมีคุณค่ายิ่งขึ้น
แผนภูมิ แผนภาพ
แผนภูมิเป็นทัศนวัสดุที่แสดงความสัมพันธ์ของเรื่องราวต่างๆ โดยอาศัยเส้น ของตัวอักษร และภาพลายเส้น
หรือภาพโครงร่าง เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจในเรื่องราว แผนภูมิแบ่งออกเป็น
9 ชนิด แต่ละชนิดมีรูปแบบ และโครงสร้างที่แตกต่างกัน
มีประโยชน์ต่อการใช้สอยแตกต่างกัน
ให้นักเรียนพิจารณาแผนภูมิรูปวงกลมต่อไปนี้
1.
แผนภูมิแสดงร้อยละ โดยปริมาณของธาตุต่าง ๆ ในร่างกายของคน
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.1 ในร่างกายของคนมีธาตุอะไรในร่างกายมากที่สุด
ประมาณร้อยละเท่าใดของธาตุทั้งหมด
1.2 ในร่างกายของคนมีธาตุอะไรน้อยที่สุด
ประมาณร้อยละเท่าใดของธาตุทั้งหมด
1.3 ในร่างกายของคนมีออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนร้อยละเท่าใด
ของธาตุทั้งหมด
1.4 ในร่างกายของคนมีคาร์บอนเป็นกี่เท่าของไนโตรเจนโดยประมาณ
1.5 ในร่างกายของคนมีออกซิเจน
ไนโตรเจน และอื่น ๆ รวมกันกี่เท่าของคาร์บอน โดยประมาณ
2.ให้นักเรียนพิจารณา
แผนภูมิรูปวงกลมต่อไปนี้
แผนภูมิแสดงปริมาณขั้นต่ำ ของอาหารเป็นกรัมที่เด็กหญิงวัย
11 - 12 ปี ควรได้รับ ในแต่ละวัน
ที่มา: กองโภชนาการ กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข
จงตอบคำถามเกี่ยวปริมาณขั้นต่ำ
ของอาหารที่เด็กหญิงวัย 11 - 12 ปี ควรได้รับในแต่ละวัน
ดังต่อไปนี้
2.1 ควรรับประทานอาหารเนื้อสัตว์
และไข่รวมกันประมาณอย่างน้อยกี่กรัม
2.2 ควรรับประทานเนื้อสัตว์หนักประมาณกี่เท่าของน้ำหนักข้าว
2.3 ควรรับประทานข้าวประมาณกี่เท่าของน้ำหนักอาหารที่รับประทานทั้งหมด
2.4 ปริมาณอาหารประเภทใดที่ควรรับประทานให้มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน
เฉลย
1.1 ในร่างกายของคนมีธาตุอะไรในร่างกายมากที่สุด ประมาณร้อยละเท่าใดของธาตุทั้งหมด
วิธีทำ
ข้อนี้ยากจัง อธิบายเพื่อความเข้าใจเอาไว้ไปใช้งานนะ
เมื่อเราดูวงกลม มีองศาทั้งหมด เท่ากับ 360 องศา
คือพื้นที่ทั้งหมดของวงกลม
จากรูปเราสังเกตุไหมว่า
จำนวนเปอร์เซนต์ทั้งหมด คือ 100 %
ดังนั้น พื้นที่ทั้งหมด ของวงกลม เท่ากับ 100 %
จากรูป - ในร่า่งกายของคนมีธาตุอะไรในร่างกายมากที่สุด
- ประมาณร้อยละเท่าใดของธาตุทั้งหมด
มากที่สุด
คือ ออกซิเจน มีประมาณ 65 % ของธาตุทั้งหมด
1.2
ในร่างกายของคนมีธาตุอะไรน้อยที่สุด ประมาณร้อยละเท่าใดของธาตุทั้งหมด
วิธีทำ
ดังนั้น พื้นที่ทั้งหมด ของวงกลม
เท่ากับ 100 %
จากรูป - ในร่า่งกายของคนมีธาตุอะไรในร่างกายน้อย ที่สุด
- ประมาณร้อยละเท่าใดของธาตุทั้งหมด
มากที่สุด
คือ ไนโตรเจน มีประมาณ
3 % ของธาตุทั้งหมด
1.3 ในร่างกายของคนมีออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนร้อยละเท่าใด ของธาตุทั้งหมด
วิธีทำ
พื้นที่ทั้งหมด ของวงกลม
เท่ากับ 100 %
จากรูป - ในร่างกายของคนมีออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนร้อยละเท่าใด ของธาตุทั้งหมด
- ออกซิเจน
มี 65 %
- คาร์บอน มี
18 %
= 65 - 18
= 47%
เพราะ
ธาตุทั้งหมดคือ 100 %
ดังนั้น จะได้ว่า
ในร่างกายของคนมีออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนร้อยละ 47 ของธาตุทั้งหมด
1.4 ในร่างกายของคนมีคาร์บอนเป็นกี่เท่าของไนโตรเจนโดยประมาณ
วิธีทำ
พื้นที่ทั้งหมด ของวงกลม
เท่ากับ 100 %
จากรูป - ในร่างกายของคนมีคาร์บอนเป็นกี่เท่าของไนโตรเจนโดยประมาณ
- ไนโตรเจน
มี 3 %
- คาร์บอน มี 18 %
อัตราส่วน ของ คาร์บอน
: ไนโตรเจน
18 : 3
= 65 - 18
= 47%
เพราะ
ธาตุทั้งหมดคือ 100 %
ดังนั้น จะได้ว่า
ในร่างกายของคนมีออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนร้อยละ 47 ของธาตุทั้งหมด
1.5
ในร่างกายของคนมีออกซิเจน ไนโตรเจน
และอื่น ๆ รวมกันกี่เท่าของคาร์บอน โดยประมาณ
วิธีทำ
พื้นที่ทั้งหมด ของวงกลม เท่ากับ 100 %
จากรูป - ในร่างกายของคนมีออกซิเจน ไนโตรเจน และอื่น ๆ รวมกันกี่เท่าของคาร์บอน
โดยประมาณ
จากโจทย์กำหนดมาให้
- ออกซิเจน มี
65 %
- ไฮโดรเจน มี 10 %
- ไนโตรเจน
มี 3 %
- อื่น ๆ มี
4 %
- คาร์บอน มี 18 %
อัตราส่วน ของ คาร์บอน
: ไนโตรเจน + ไฮโดรเจน + ออกซิเจน + อื่น ๆ
18 : 3
+ 10 + 65
+ 4
18 : 82
1 : 4.56
ในร่างกายของคนมี
คาร์บอน
: ออกซิเจน ไนโตรเจน และอื่น ๆ รวมกัน
เป็น
1 : 4.56 โดยประมาณ
2.1 ควรรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ และไข่รวมกันประมาณอย่างน้อยกี่กรัม
- เนื้อสัตว์
128 กรัม
- ไข่
35 กรัม
=
128 + 35
=
163 กรัม
ควรรับประทานอาหารเนื้อสัตว์
และไข่รวมกันประมาณอย่างน้อย 163 กรัม
2.2 ควรรับประทานเนื้อสัตว์หนักประมาณกี่เท่าของน้ำหนักข้าว
- เนื้อสัตว์
128 กรัม
- ข้าว
264 กรัม
ดังนั้น เนื้อสัตว์
: ข้าว
128
: 264
1
: 2.06
เนื้อสัตว์ : น้ำหนักข้าว
คือ 1 :
2.06
2.3
ควรรับประทานข้าวประมาณกี่เท่าของน้ำหนักอาหาร ที่รับประทานทั้งหมด
ดังนั้น
หา น้ำหนัก ข้าว
: น้ำหนัก อาหารทั้งหมด
ข้าว : ไข่ + เนื้อสัตว์
+ ผักเขียว
264
: 35 + 128
+ 119
264 : 282
1 : 1.07
น้ำหนัก ข้าว : น้ำหนัก อาหารทั้งหมด
คือ 1
: 1.07
2.4
ปริมาณอาหารประเภทใดที่ควรรับประทานให้มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน
เพราะ - เนื้อสัตว์
128 กรัม
- ผักใบเขียว 119 กรัม
ควรรับประทานให้มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน
คือ เนื้อสัตว์ และ ผักใบเขียว
วันที่ 14 กันยายน 2556
การใช้แผนภูมิ สามารถช่วยให้เข้าใจในเรื่องที่จะใช้แก้ปัญหาได้ง่ายกว่าการใช้วิธีอื่น เพราะการใช้แผนภูมิจะเห็นภาพได้อย่างชัดเจน และในบล็อคนี้ มีเนื้อหาประเภทของแผนภูมิไว้หลายประเภท สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตรงตามการแก้ไขปัญหาได้ เช่นการแก้ปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์
ตอบลบเข้าใจง่ายดี ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแผนภูมิชนิดต่างๆ
ตอบลบการเข้าใจเรื่องแผนภูมิสามารถทำให้เราเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น
ตอบลบ...เนิื้อหาสร้างความเเข้าใจดีค่ะ...^____________^
ตอบลบ